การใช้ let กับ let’s

การใช้ let กับ let’s

การใช้ let กับ let’s
Let กับ Let’s สองคำนี้ไม่ใช่คำเดียวกันค่ะ และความหมายที่นำไปใช้ก็แตกต่างกันด้วยค่ะถ้าคุณเจอสองประโยคนี้

  • Let go!
  • Let’s go!

สองประโยคนี้เราจะได้ยินในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ประโยคแรกที่ไม่มี apostrophe s ( ‘s ) แปลว่า ปล่อยมันไปเหอะ ช่างมันเหอะ เช่น เพื่อนคุณเพิ่งจะรู้ว่าไม่ผ่านการสัมภาษณ์งาน เธอก็เลยพูดว่า let go. ช่างมันเหอะ

แต่ประโยคที่สอง แปลว่า ไปกันเถอะ เป็นการเชิญชวน เช่น คุณกับเพื่อนคุณกำลังจะไปออกทริปด้วยกัน เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม ทุกคนพร้อมแล้ว เพื่อนคุณก็พูดขึ้นมาว่า let’s go. ไปกันเหอะ

Let จะเป็นการอนุญาต หรือแปลว่า ปล่อย ก็ได้ ปกติการใช้ let จะอยู่ในรูปโครงสร้าง

 

          Let + object + Verb (infinitive)

เช่น

  • Let me help you.
    ให้ฉันช่วยคุณเถอะนะ
  • I usually let the children stay up late on Saturday night.
    ฉันมักจะอนุญาตให้เด็กๆอยู่ดึกได้ในคืนวันเสาร์
  • Let it be!
    ปล่อยมันไปเหอะ

** ไหนๆก็พูดเรื่องการอนุญาตแล้ว ก็ขอเพิ่มเติมคำศัพท์อีกตัวนึงนะคะ คือคำว่า allow แปลว่า อนุญาต เหมือนกัน แต่ใช้ต่างจาก let ตรงที่ มี allow ต้องมี to แต่ let ไม่ต้องมี เช่น

  • My dad let me go out on Friday night.
  • My dad allows me to go out on Friday night.
    พ่อฉันอนุญาตให้ฉันออกไปเที่ยวคืนวันศุกร์ได้

Let ยังใช้ในสำนวน let go of…something..แปลว่า ปล่อย เช่น

  • She let go of her son’ s hand, so he fell down.
    เธอปล่อยมือลูกชาย เขาก็เลยหกล้ม

 

Let’s จะเป็นการเชิญชวน แปลประมาณว่า …..กันเถอะ   จริงๆแล้วย่อมาจากคำเต็มคือ
Let us และตามประสาของคนที่ชอบย่อ ชอบตัดให้มันสั้นๆ (ง่ายๆคือ ขี้เกียจนั่นเอง) เลยเหลือแค่ Let’s ปกติก็ไม่ค่อยมีใครพูดว่า Let us จะใช้ Let’s มากกว่า

โครงสร้างคือ

 

          Let’s + Verb (infinitive)

เช่น

  • Let’s find something to drink.
    ไปหาอะไรดื่มกันเถอะ
  • Let’s call the police.
    โทรหาตำรวจกันเถอะ
  • It’s getting dark. Let’s go home.
    มันเริ่มจะมืดละ กลับบ้านกันเหอะ