Subject and Object Pronoun ในภาษาอังกฤษ

Subject and Object Pronoun ในภาษาอังกฤษ

Subject and Object Pronoun

Pronoun หรือ คำสรรพนาม คือคำที่ใช้แทนคำนามในกรณีที่เราได้พูดคำนามนั้นมาก่อนหน้าแล้ว และไม่อยากพูดซ้ำ จึงใช้คำสรรพนามแทน ในที่นี้จะพูดถึง บุรุษสรรพนามหรือ personal pronoun ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ subject and object pronoun ดังนี้

Subject pronoun                      Object pronoun

I                                                 me

You                                            you

We                                             us

They                                           them

He                                              him

She                                             her

It                                                it

subject pronoun ใช้แทนคำนามที่เป็นประธานในประโยค ส่วน object pronoun ใช้แทนคำนามที่เป็นกรรม ประโยคตัวอย่างเช่น

  • Look at my new trainers! They are awesome.
    ดูรองเท้ากีฬาคู่ใหม่ของฉันสิ มันสุดยอดไปเลย

( They เป็น subject pronoun ที่ใช้แทนคำนาม trainers คือรองเท้ากีฬา สิ่งของที่เป็นพหูพจน์ ก็ใช้ they ได้)

  • That is Mrs. Jones. I like her very much because she is so kind.
    นั่นน่ะคุณนายโจนส์ ฉันชอบเธอมากๆเลยเพราะเธอใจดี

( her เป็น subject pronoun แทนคำนาม Mrs. Jones และ she เป็น subject pronoun แทน Mrs. Jones เช่นกัน

การใช้ personal pronoun ดูเหมือนจะไม่ยาก แต่ถ้าเกิดบังเอิญต้องไปใช้ตามหลังคำเหล่านี้ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นว่าจะใช้เป็น subject หรือ object pronoun ดี

1. ถ้าตามหลัง verb to be ในประโยคต่อไปนี้ให้ใช้ object pronoun

This is……../ It is…../ That’s……

เช่น

  • Look at the picture. This is me standing with the Prime Minister.
  • Who broke the window?    It’s him.

2. แต่ถ้าตามหลัง Verb to be โดยอยู่ในรูปประโยคต่อไปนี้ ให้ตามได้ทั้ง subject หรือ object pronoun แล้วแต่ว่าความหมายอยู่ในลักษณะผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ เช่น

  • It is only she who can speak English here. (she เพราะเป็นผู้กระทำ)
  • It was I who broke the window.  ( I เพราะเป็นผู้ทำหน้าต่างพัง)
  • It is him whom she loves. ( him เพราะ เป็นผู้ถูกกระทำ)
  • It was her whom I saw last night. ( her เพราะเป็นผู้ถูกกระทำ)

เช่นเดียวกับสรรพนามที่ตามหลังคำว่า except ถ้าใช้อย่างประธานก็ให้ใช้ subject pronoun แต่ถ้าใช้อย่างกรรม ก็ให้ใช้ object pronoun เช่น

  • No one except her whom I asked for marrying.
  • No one except she who can solve this problem.

3. สรรพนามที่ตามหลังคำว่า Let ในความหมายว่า อนุญาต/ปล่อยให้/ยอมให้   ให้ใช้ object pronoun เสมอ เช่น

  • Don’t let him do what he wants   อย่าปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการ
  • Let me introduce myself.   ขอผมแนะนำตัวเองหน่อยนะครับ

4. สรรพนามที่ตามหลัง than หรือ as…..as จะใช้ subject หรือ object pronoun ก็ได้ แล้วแต่ความหมายที่ต้องการพูดถึง เช่น

  • I love you more than he.    ผมรักคุณมากกว่าที่เขารัก(คุณ)
  • I love you more than him.   ฉันรักคุณมากกว่าเขา

ประโยคแรก he เป็นประธาน เพราะอยู่ในฐานะที่ไปรักคุณเหมือนกัน แต่ฉันรักมากกว่า แต่ประโยคที่สอง him เป็นกรรม เพราะเป็นการเปรียบเทียบว่าระหว่างคุณกับเขา ฉันรักคุณมากกว่ารักเขา เขาจึงใช้สรรพนามที่เป็นกรรม

  • I am as good at swimming as she.  ฉันว่ายน้ำเก่งพอๆกับหล่อน
  • I like you as much as him.   ฉันชอบคุณพอๆกับที่ชอบเขา

5. สรรพนามที่ตามหลัง but ที่แปลว่า “นอกจาก หรือ ยกเว้น” ให้ใช้รูป subject pronoun เสมอ เช่น

  • All but he pass the exam.  ทุกคนสอบผ่านยกเว้นเขา

6. สรรพนามที่ตามหลัง between ต้องใช้ object pronoun เสมอ เช่น

  • Between you and me, there should be no secret.
    ระหว่างเธอกับฉัน ไม่ควรมีความลับต่อกัน
  • The Prime Minister is standing between him and me.
    นายกรัฐมนตรียืนอยู่ระหว่างเขากับฉัน